Untitled Document
Untitled Document
 

 
คิดแล้วรวย
พลิกชีวิต คิดเชิงบวก
ความเชื่อมั่น สร้างได้ด้วยตัวเอง
เป้าหมาย
เปลี่ยนตัวเองให้เป็น อย่างที่อยากเป็น
คัมภีร์สุดยอดทัศนคติ ใช่เลย!!
  เพิ่มเติม >>>
 
 
right story
  •  เรื่องที่อยากเล่าให้ฟัง 175
  •  เรื่องที่อยากเล่าให้ฟัง 173
  •  เรื่องที่อยากเล่าให้ฟัง 174
      ทั้งหมด »»  
     
  •   หัวหน้าทวงงานแล้วรู้สึกหงุดหงิดทุกที ควรแก้ไขอย่างไร?
  •   ความอยากในการทำงานจะลดลงเมื่อเจออุปสรรค จะให้กำลังใจตัวเองอย่างไร?
  •   การพัฒนาพนักงานในองค์กรเราควรพัฒนาคนเก่งหรือพัฒนาคนที่ไม่เก่งดี ?
      ตัวอย่างคำปรึกษาอื่นๆ»»  
     
    คุณ สมศักดิ์ สุริยะกุล
      เนื่องจากผมชอบอ่านหนังสือ จึงเปิดอ่านส่วนนี้ก่อน และเนื่องจากรู้จักเจ้าของบล๊อกเป็นการส่วนตัว และรู้ว่าจะได้แนวคิด ด้านการบริหารในแง่จิตวิทยา และภาวะผู้นำที่เปิดมุมมองใหม่ ๆ ดี ๆ อย่างที่ ผมเคยได้มาแล้วจึงสนใจส่วนนี้เป็นพิเศษ
      เชิญอ่านต่อครับ >>>    
       
     

       
     
    |
     


    17   การเปลี่ยนแปลงตัวเอง ทำไมยากนัก ทั้งๆที่รู้ว่าดี !

    24 ก.ย. 2551

    การเปลี่ยนแปลงตัวเอง



    การเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นเรื่อง ยาก สำหรับทุกๆคน เพราะคนเราส่วนใหญ่ ไม่อยากออกจากพื้นที่แห่งความเคยชิน (Comfort Zone) เมื่อต้องออกมาจริงๆ (การเปลี่ยนแปลง) จึงเป็นกังวลและเกิดความกลัวต่างๆนานา เช่น กลัวความล้มเหลว การถูกปฏิเสธ กลัวว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร เป็นต้น จึงทำให้ยังทำแบบเดิม ปฏิบัติตัวเหมือนปกติ เพราะรู้สึกว่าเราคงทำไม่ได้
     
     
    การให้คำปรึกษา
    การที่เราบอกว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ดีแต่เปลี่ยนยาก เป็นเพราะเราไม่ได้รู้สึกว่าดีจริงๆ เราแค่เข้าใจว่าดีเท่านั้น ไม่ใช่ต้องการด้วยตัวเอง จึงทำให้การเปลี่ยนแปลงเกิดยาก และทำได้ไม่ตลอด สุดท้ายก็จะกลับไปปฏิบัติแบบเดิมอีก

    ส่วนใหญ่แล้วเราจะเปลี่ยนแปลงเพราะเกิดเหตุการณ์ที่จำเป็นต้องเปลี่ยน เช่น เกิดวิกฤตอย่างหนึ่ง ถ้าเราไม่เปลี่ยนเราก็ไม่รอด เช่น หัวหน้าสั่ง เราจะตกงาน ต้องการเอาชนะ เป็นต้น แต่การเปลี่ยนแปลงแบบนี้ ถือว่าเราไม่ได้พัฒนาด้วยตัวเอง เป็นเพียงแค่จำเป็นต้องเปลี่ยนเท่านั้น เมื่อเหตุการณ์วิกฤตได้ผ่านพ้นไปเราก็จะกลับไปทำแบบเดิมอีก

    ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงตัวเองที่ดีนั้น เราต้องรู้สึกว่า อยาก เปลี่ยนด้วยตัวเราเองโดยการตั้งเป้าหมาย แล้วคิดถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น ว่าเราจะมีความสุข ความภูมิใจแค่ไหนถ้าเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ และระหว่างการเปลี่ยนแปลง ก็ให้คิดอยู่เสมอว่า ต้องค่อยเป็นค่อยไป อาจทำได้บ้าง ทำไม่ได้บ้าง แต่ต้องทำไปเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง ไม่สนใจผลลัพธ์มากนักในช่วงแรก มุ่งมั่นไปที่เป้าหมาย และมีความสุขกับการเปลี่ยนแปลง ที่ทำได้ทีละนิด ดีกว่าไปคาดหวังผลลัพธ์ในทันที เพราะจะทำให้เราผิดหวัง
    ผลตอบรับ
    คำปรึกษาเพิ่ม
       ตัวอย่างคำปรึกษาย้อนหลัง
     
    Feedback >> ส่งความคิดเห็น/มุมมองของท่าน
    Date ความคิดเห็นเพิ่มเติม  
    16 เม.ย. 2552 ช่วงนี้ประเทศไทย และทั่วโลกกำลังผจญกับภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ แนวคิดในการ Down size ลดต้นทุน และพัฒนาองค์การสู่ยุคการใช้ E-management ของบริษัทของผม เกิดจากการร่วมกันผลักดันระหว่างผม กับ ผู้บังคับบัญชาของผม ( ผมอยู่ในต่ำแหน่ง Superviosr และ ผู้บังคับบัญชาของผม ต่ำแหน่ง MFG. manager)
    แต่เนื่องจากองค์กรมี ADM & ACC manager ที่ยังไม่ตอบรับแนวคิดนี้ จึงเกิดอุปสรรค ในการพัฒนาในภาพรวม ผมซึ่งมีต่ำแหน่งต่ำกว่าไม่สามารถผลักดันได้เต็มที่ และผู้บังคับบัญชาของผม ก็อยู่ในระดับเดียวกับ Manager ท่านอื่น ทำให้การพัฒนาไปได้ช้า ตอนนี้เราทำได้แต่พัฒนาหน่วยงานที่อยู่ในอำนาจควบคุม ให้ทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง ดังนี้
    -ในด้าน E-management ลดความสูญเสียด้านเวลาและบุลากร
    -พัฒนา 5 ส. อย่างครบวงจร ที่ผ่านมาทำแค่ 3 ส. แรกเท่านั้น
    -พัฒนาภาวะผู้นำ คิดบวก และจุดประกายความคิดสร้างสรร
    -ฝึกวางวิสัยทัศน์ ระดับผู้นำ การตั้งเป้าหมาย และแนวทางปฏิบัติ
    -การทำงานเป็น Team work โดยการนำปัญหาต่างๆในองค์กร มา แก้ไขโดยใช้ระบบ QCC
    จะทำอย่างไร ให้เกิดการยอมรับ จากหน่วยงานอื่น
    การผลักดันให้หน่วยงานอื่น ยอมรับและนำไปปฏิบัติ อย่างเต็มใจ จะทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดแรงต้านจากบุคลคลระดับ Key man
    และบทบาทของผม ควรอยู่ในระดับใด การผลักดันให้ Manager หรือผู้นำ หน่วยงานอื่นเปลี่ยนแปลง จะเกิดผลเสียกับผมหรือไม่ อย่างไร
    เป็นคำถามที่สงสัย อย่างยิ่งครับ
    จึงรบกวนขอคำปรึกษา จากคุณปรณ์ ให้ช่วยวิเคราะห์ให้ด้วยนะครับ ขอบพระคุณครับ ^_^

    โดย : บัณฑิค สรณ์สิริพงศ์
    04 พ.ค. 2552 ขอโทษด้วยครับ ที่ตอบช้า เพราะผิดพลาดทางระบบ E-mail นิดหน่อย ผมเลยเห็นข้อความช้าไปครับ
    เห็นความตั้งใจและความหวังดีของคุณกับผู้จัดการแล้ว รู้สึกภูมิใจแทนบริษัทของคุณนะครับ

    การผลักดันโครงการตางๆนั้นเป็นข้อดีแต่ถ้าไม่ได้รับการยอมรับจากผู้อื่นก็อาจทำให้โครงการไม่สามารถเดินต่อไปได้อย่างราบรื่น ผมไม่แน่ใจในรายละเอียดที่ผู้จัดการอีก 2 ท่านยังไม่ให้ความร่วมมือหรือตอบรับแนวความคิดของคุณ ขออนุญาตเสนอความคิดเห็นเป็นหลักการดังนี้ครับ

    1.โครงการนั่นทำให้ผู้จัดการ 2 ท่านพร้อมหน่วยงานของเขาต้องเปลี่ยนแปลงมากหรือไม่ เพราะถ้าเกิดผลกระทบกับเขามาก เขาคงไม่อยากเปลี่ยน ถ้าเราไม่มีอำนาจบังคับให้เขาเปลี่ยนแปลง ก็คงต้องทำให้เขาเห็นประโยชน์ถ้าเขายอมเปลี่ยนแปลง เช่น เป็นผลงานของเขาที่จะทำให้ M.D. ยอมรับ เป็นต้น

    2.ทำอย่างไรจึงจะให้ทั้ง 2 ท่านมีส่วนร่วมกับโครงการ เพราะถ้าเขามีส่วนร่วมกับโครงการ เชื่อแน่ว่าเขาคงช่วยผลักดันให้บรรลุผลสำเร็จได้ ลองนำรายละเอียดเสนอให้เขาช่วยออกความคิดเห็นแล้วช่วยกันนำเสนอให้ผู้บริหารดูสิครับ

    3.ถ้าเราคิดว่าเรานำเสนอเรื่องดีๆไป ไม่ต้องคิดมากหรอกครับว่าเขาจะเห็นด้วยหรือไม่ ถ้าเราตั้งใจจริงแล้วอยากให้ทุกคนมีส่วนร่วม เชื่อแน่ว่าเขาคงเข้าใจแล้วเข้าร่วมแน่นอนเลย อดทนหน่อยครับ

    4.เริ่มหาคนที่เห็นด้วยกับโครงการก่อนแล้วอธิบายให้เขาเห็นประโยชน์แล้วให้ทุกๆคนช่วยกันผลักดันทีละนิด โครงการก็จะเกิดขึ้นเองครับ

    เราไม่สามารถบังคับหรือสั่งให้ใครทำได้ ก็ควรจูงใจให้เขามีส่วนร่วมกับโครงการดีกว่าครับ แค่ตั้งใจทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ก็ถือว่าได้พัฒนาภาวะความเป็นผู้นำแล้ว อย่าไปกังวลกับผลลัพธ์มากเกินไปเลยครับ ขอเป็นกำลังใจให้ครับ

    โดย : ปกรณ์

    To top ^
    Untitled Document
                         
      Home | บอกเล่าแนวความคิด | เรื่องเล่าน่าภูมิใจ | web นี้ให้อะไร | หลักสูตร | บริการ | ติดต่อผม |  Copyright @ Pakornblog.com