|
เรื่องที่อยากเล่า # 26
การบริหารแบบ สั่งการ หรือ สอนงาน อย่างไหนดีกว่ากัน |
29 ก.พ. 2551 |
วันนี้อยากเล่าเรื่องที่ ผู้บริหารหลายคนสับสนว่า จะใช้การบริหารแบบไหนดี จะใช้การสั่งการเหมือนเดิม หรือจะเปลี่ยนไปใช้แบบ Coaching คือ สร้างแรงจูงใจดี เพราะแต่ละวิธีก็มีข้อดี ข้อเสียต่าง ๆ กัน (บางท่านไม่สับสนก็โชคดีไปนะครับ) เรื่องมีอยู่ว่า ผู้บริหารหลาย ๆ ท่านเป็นประโยชน์ในโปรแกรมที่ผมใช้พัฒนาผู้บริหารระดับกลางของเขาและรู้สึกว่า การบริหารงานแบบ Coaching ก็ทำให้น้อง ๆ บางคนมีประสิทธิภาพสูงขึ้นจริง ๆ แต่ก็คิดว่า จะทำไม่ได้ เพราะกลัวว่า ถ้าทำแล้วจะเหมือนเป็นคนใจดีไป ไม่เด็ดขาดเพียงพอ แต่ถ้าไม่ทำก็จะเป็นเหมือนเดิม คือต้องเครียดตลอดเวลา ที่จะต้องสั่งให้ผู้อื่นทำงาน ชีวิตก็ไม่ค่อยมีความสุข เลยสบสนตัวเองว่า จะเปลี่ยนแปลงตนเองดีหรือไม่ |
|
ผมได้แลกเปลี่ยนไปว่า ถ้ารู้สึกว่า การบริหารแบบ Coaching หรือ การสร้างแรงจูงใจให้ทำงานนี้มีประโยชน์ แล้วอยากเปลี่ยนแปลงตนเอง มาใช้การบริหารแบบนี้บ้าง เพราะเข้าใจวิธีการและผลลัพธ์แล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าจะดีหรือไม่ ก็ให้ใช้วิธีการเลือกทำเฉพาะบุคคลที่เราต้องการพัฒนาจริง ๆ ก่อน เช่น คนในองค์กรมีจำนวนมาก ผู้จัดการก็มีหลายคน เราอาจปฏิบัติ ต่อ ทุก ๆ คน เหมือนกันหมด ไม่ได้เพราะแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน มีความกระตือรือร้น ต่าง ๆ มีความต้องการที่จะพัฒนาตนเองก็ไม่เท่ากัน ดังนั้นเราคงต้องบริหารงานแบบสั่งการเหมือนเดิมไปก่อน
แต่เลือกบางคนที่จะบริหารเขาแบบการ Coaching โดยมอบหมายอำนาจหน้าที่ให้ โดยการใช้แรงจูงใจในสิ่งที่เขาต้องการเติบโต และสอนงานเขาเสมือนหนึ่งเป็น โค้ช (coach) ของเขาแทนการเป็น Manager เขาอย่างเดียว
|
ผู้บริหารหลายคนก็เข้าใจ แล้วรับปากว่าจะไปลองทำดู พร้อมกับแลกเปลี่ยนว่า จริง ๆ แล้ว ก็คือเราเลือกที่จะบริหารงานแบบ ทฤษฎี X หรือ Y ของแมดเกรเกอร์นั่นเอง
ทฤษฎี X = สมมติฐานว่า บุคคลโดยเฉลี่ยไม่ชอบทำงาน จึงต้องบังคับ ควบคุมชี้นำ ลงโทษ เพื่อให้บุคคลนั้น ทำงานตามเป้าหมาย
ทฤษฎี Y = สมมติฐานว่า บุคคลโดยเฉลี่ยชอบทำงาน จึงใช้แรงจูงใจ เพื่อกระตุ้นให้คนทำงานตามเป้าหมาย พร้อมสร้างบรรยากาศบริหารงานแบบอิสระ
|
แนวความคิดก็ประมาณนี้ลองพิจารณาแล้วนำไปปฏิบัติดูนะครับ
|
<<
เรื่องก่อนหน้า
|
เรื่องเล่าย้อนหลัง |
เรื่องต่อไป
>>
|