|
เรื่องที่อยากเล่า # 37
หลุมพรางการปฏิบัติตัวที่สกัดกั้นการบรรลุผลสำเร็จ |
29 ก.ย. 2551 |
วันก่อนระหว่างรอเวลาเพื่อเข้าเป็นที่ปรึกษาทีมงานขายให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง ที่ร้านกาแฟใกล้ๆบริษัท ผมได้สั่งช็อกโกแลตเย็นมาดื่มพร้อมกับคิดว่า ทำไมนะ ทีมงานขายหลายๆที่จึงท้อถอยกันบ่อยๆ ทั้งๆที่มีเป้าหมายและมีแผนงานแล้ว แต่ระหว่างที่ทำตามแผนอยู่นั้นก็จะท้ออยู่เรื่อย ถ้าเจออุปสรรคและอยากได้ความสำเร็จเร็วๆ เมื่อไม่คืบหน้ามากก็จะเป็นกังวล อยากจะเปลี่ยนวิธีใหม่ๆอีก ทั้งๆที่แผนงานเดิมยังทำไม่ครบเลย
ผมเลยลองเขียน หลุมพราง ที่ผู้จัดการทีมงานขายพบเจออยู่บ่อยๆ ทำให้ไม่บรรลุผลสำเร็จเท่าที่ควร และในฐานะที่เป็นผู้นำทีม สิ่งที่ปฏิบัติอยู่ที่ผมเรียกว่าหลุมพรางนี้ ก็จะทำให้ทีมงานขาดความมั่นใจในตัวผู้จัดการ (ผู้นำ) คนนั้นไปด้วย ทีมงานก็เลยอ่อนแอ แล้วสุดท้ายเป้าหมายกับทีมก็ไม่บรรลุผลสำเร็จไปด้วย ลองดูความคิดผมเกี่ยวกับ หลุมพราง ดูนะครับ |
|
หลุมพรางการปฏิบัติตัวที่สกัดกั้นการบรรลุผลสำเร็จ
คิดว่ารู้ทุกอย่างหมดแล้วแต่ไม่เคยนำมาทำให้เป็นระบบงาน
มีความสามารถในตัวเองเต็มเปี่ยม แต่ใช้ไปไม่เท่าไหร่
เขียนแผนงานเสร็จ ก็ทำๆหยุดๆ ท้อง่าย และคิดมาก ยังไม่รู้ผลสักที
สิ่งที่ทำอยู่นั้นเป็นภารกิจและหน้าที่ ไม่ใช่แรงปรารถนาของตัวเองที่จะทำ
สรรหาวิธีการใหม่ๆอยู่เสมอ ทั้งๆที่แผนงานเดิมยังทำได้ไม่ครบเลย
ดูถูกความสามารถของตัวเองอยู่เรื่อยๆ แทนที่จะให้กำลังใจตัวเอง
โทษสภาพแวดล้อมและผู้อื่น มากกว่ามุ่งมั่นในความรับผิดชอบกับเป้าหมาย
จมอยู่กับอดีต กังวลภาพลบในอนาคต ไม่ได้ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
ผัดวันประกันพรุ่ง ด้วยเหตุผลและข้อแก้ตัวที่ดูเป็นธรรมชาติมากเลย
|
ลองดูซิครับว่าใครมีพฤติกรรมหรือปฏิบัติตัวแบบนี้บ้าง จะได้เห็นตัวเอง ผมลองให้คนรู้จักอ่านดู หลายคนบอกว่าเป็นเกือบทุกข้อเลยครับ แล้วเราก็ขำๆตัวเองกัน อย่างที่บอกนะครับ เห็นตัวเองเร็วเท่าไหร่ หรือยอมรับข้อผิดพลาดของตัวเองได้มากเท่าไหร่ เราก็จะสามารถพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น ได้มากเท่านั้นครับ
หลังจากที่ได้คุยกับหลายๆคนแล้ว ก็มีคำถามเพิ่มเติมว่า แล้วจะแก้ไขอย่างไรกับหลุมพรางเหล่านี้ เพื่อให้เหลือน้อยที่สุด ( จะให้หมดไปคงยาก ) ผมก็เลยบอกว่า จากประสบการณ์ของผมก็มีแนวทางอยู่บ้าง ไว้จะเล่าให้ฟังฉบับหน้า คอยติดตามอ่านแล้วกันนะครับ
|
|
<<
เรื่องก่อนหน้า
|
เรื่องเล่าย้อนหลัง |
เรื่องต่อไป
>>
|