|
เรื่องที่อยากเล่า # 42
ความแตกต่างระหว่าง ความฝันที่เรากล้าฝัน กับ ฝันกลางวัน ที่เราได้แต่ฝันเอาไว้ |
05 ม.ค. 2552 |
สวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้ทุกคนมีความสุขในปี 2552 ครับ
ผมได้อ่านหนังสือ ชื่อ กล้าฝัน...กล้าทำ (Dare to Dream
Then do it.) ของ John c. Maxwell เป็นหนังสือขนาด 100 กว่าหน้า ไม่หนามากได้ข้อคิดและแง่คิดมากมาย ซึ่งหลายข้อตรงกับความคิดในปัจจุบันของเราที่ว่า หากคิดที่จะทำอะไรก็แล้วแต่ ต้องกล้าที่จะฝันก่อน หากใครไม่มีความฝันก็ไม่รู้ที่จะไปไหน และสุดท้ายก็คงจบลงที่ไหนสักแห่ง |
|
เมื่อฝันแล้วก็ต้องเชื่อมั่นในความฝันว่าตัวเองทำได้ ด้วยทัศนคติเชิงบวก แล้วลงมือทำตามฝันหรือเป้าหมายนั้นทันที โดยยืนหยัดจนกระทั่งพบกับความสำเร็จ ทำให้ย้ำเตือนกับตัวเองอยู่เรื่อยๆ ว่าเรากำลังเดินตามฝันที่เราตั้งใจไว้หรือไม่ จะได้ไม่ออกนอกลู่นอกทางมากนัก
สิ่งที่ผมประทับใจและอยากนำมาเล่าให้ฟังในหนังสือ ความแตกต่าง ระหว่าง ความฝันที่เรากล้าฝัน กับ ฝันกลางวันที่เราได้แต่ฝันเอาไว้ ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งหนังสือเขียนไว้ได้ดีมากเห็นภาพความแตกต่างของคนที่ กล้าฝัน กับคนที่ ฝันกลางวันได้ชัดเจน ผมขอสรุปเป็นแนวความคิดของผม ประกอบด้วย ดังนี้
|
คนที่กล้าฝัน
นำความฝันนั้นมากำหนดเป็นแผนงานสำหรับการลงมือทำและเริ่มต้นทันที
ให้ความสำคัญกับระเบียบวินัยที่จะต้องทำตามแผนการและมุ่งเน้นการเดินทางในแต่ละขั้นตอนอย่างมีความสุข
ปฏิบัติตัวโดยการทำงานหนักเพื่อให้บรรลุฝันให้ได้ บางครั้งอาจต้องเสี่ยงบ้างหรือเสียสละบางอย่างก็ต้องทำ
ทำให้เกิดความรับผิดชอบสูง ก่อให้เกิดการทำงานเป็นทีม สร้างให้เกิดแรงกระตือรือร้นในการทำงาน
คนที่ฝันกลางวัน
นำความฝันนั้นมาเป็นเพียงข้ออ้าง เพื่อให้ตัวเองดีขึ้นว่ามีวิสัยทัศน์เหมือนกัน แต่ไม่เคยลงมือทำเลย
ให้ความสำคัญกับโชคชะตาที่จะทำ ให้ฝันเป็นจริงหรือไม่ โดยสนใจเฉพาะผลลัพธ์ที่อยากได้เท่านั้น
ปฏิบัติตัวเป็นปกติไม่เน้นการทำงานหนักหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทั้งปวงโดยไม่ยอมออกจาก Cornfort Zone เลย
ปล่อยให้คนอื่นเป็นผู้รับผิดชอบในฝันนั้น โดยรอดูผลลัพธ์เท่านั้น สร้างแรงเฉื่อยให้เกิดขึ้น เพราะเป็นตัวอย่างให้กับทีมงาน
จากประสบการณ์ของการเป็นที่ปรึกษาในช่วงหลังๆมานี้ น้องๆหลายคนจะมาปรึกษาว่า จะทำอย่างนี้ดีหรือไม่เกี่ยวกับแผนงานของเขา ผมจะเริ่มด้วยการให้เขาเล่าความฝันของเขาเกี่ยวกับงานของเขาให้ผมฟังก่อนว่า เขามีความฝันอย่างไร อยากเห็นงานออกมาอย่างไร และคาดหวังว่าใครจะเข้ามามีส่วนร่วมบ้าง เมื่อเขาเล่าจบ ผมก็พอบอกได้เลยว่า เขามีโอกาสทำงานนี้สำเร็จสักกี่เปอร์เซ็นต์ เพราะเรื่องที่เล่า ก็จะบ่งบอกได้เลยว่า เขากล้าฝัน หรือเป็นเพียง ฝันกลางวัน เท่านั้น
หลังจากให้คำแนะนำบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องของการฝันแล้ว ทำให้เขารู้สึกตัวได้ว่า ฝันของเขายังเล็กเกินไป ที่จะสร้างพลังให้กับทีมงานได้ เขาจึงกลับไปฝันใหม่อีกครั้ง แล้วก็ดีขึ้นมาทันทีเลยครับ
|
|
<<
เรื่องก่อนหน้า
|
เรื่องเล่าย้อนหลัง |
เรื่องต่อไป
>>
|