|
ผมกำหนดเส้นทางเดินของผมดังนี้ครับ
ปี2560 ผมเป็นอธิการบดีสถาบันเล็กๆของผมเอง
: สถาบันนี้มุ่งเน้นการผลิตบุคลากรด้าน วิทยากร,โค้ช,ที่ปรึกษา เป็นหลัก โดยใช้แนวทาง (Methodology) ที่ถูกออกแบบและพัฒนามาอย่างต่อเนื่องว่าสามารถพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตัวเองได้อย่างยั่งยืน
ปี2559 เปิดศูนย์ฝึกอบรมตามห้างสรรพสินค้า
: แนวโน้มการพัฒนาตัวเองจะเกิดขึ้นสูง การฝึกอบรมโดยผู้เรียนให้ความสนใจในตัวเองจะมีสูงขึ้นมาก เพราะบุคลากรยุคใหม่ต้องการเติบโตเร็ว การรอให้องค์กรจัดฝึกอบรมและออกค่าใช้จ่ายได้นั้น อาจไม่จำเป็นสำหรับคนที่ต้องการสำเร็จเร็ว ดังนั้นความสะดวกในการเปิดศูนย์ฝึกอบรมตามห้างสรรพสินค้า ที่ผู้เรียนสามารถมาเรียนในช่วงเย็นหรือเสาร์ อาทิตย์ได้ ก็จะแพร่หลายมากขึ้น
ปี2558 ร่วมมือกับสถาบันต่างประเทศจัดหลักสูตรฝึกอบรมในประเทศไทย
:การแลกเปลี่ยนแนวทางการฝึกอบรมและนำหลักสูตรต่างประเทศมาสอนในประเทศไทย นับว่าเป็นการพัฒนาบุคคลากรอีกด้านหนึ่ง เพราะสามารถดึงจุดเด่นที่หลักสูตรต่างประเทศใช้ได้ผลกับทั่วโลกมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับประเทศไทยได้
ปี2557 เปิดศูนย์อบรม(สาขา)ต่างจังหวัด
:องค์กรต่างจังหวัดทั่วประเทศ จำเป็นต้องพัฒนาบุคลากร เช่นเดียวกัน การเชิญวิทยากรจากกรุงเทพย่อมมีค่าใช้จ่ายที่สูง และวิทยากรหลายท่านก็ไม่สะดวกในการเดินทาง ดังนั้นการพัฒนาให้วิทยากรต่างจังหวัด สามารถสอนในแนวทางเดียวกับวิทยากรที่กรุงเทพและใช้เครื่องมือพร้อมหลักสูตรเดียวกันได้ ก็จะทำให้การพัฒนาบุคคลกรต่างจังหวัดได้ทัดเทียมกับบุคคลากรในกรุงเทพด้วยค่าใช้จ่ายที่ถูกลงได้ด้วย
ปี2556 พัฒนาวิทยากรที่สอนในแนวทางเดียวกัน (Certified Course )
:หลักสูตรที่ผมใช้สอนอยู่ในปัจจุบันนั้นให้ความสำคัญที่ Methodology ที่ใช้ในการฝึกอบรม พร้อมหลักการเรียนรู้แบบผู้ใหญ่ (Adult Leaning) และกระบวนการโค้ชชิ่ง (Coaching) จึงสามารถถ่ายทอดวิธีการต่างๆให้กับวิทยากรที่สนใจด้านนี้และต้องการสอนแนวทางนี้ได้ เพราะวิทยากรเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ ไม่ใช่ผู้สอนโดยตรง ดังนั้นถ้าสามารถปฏิบัติตัวตามหลักการ เทคนิคและกระบวนการที่ผมใช้ได้ครบผลลัพธ์ก็จะเกิดเช่นเดียวกัน ผมจึงมีเป้าหมายพัฒนาวิทยากรเพิ่มขึ้น 10 ท่าน
|