|
|
เรื่องที่อยากเล่า # 69
ผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงของผู้เข้าอบรม |
04 ม.ค. 2554 |
ผมได้มีโอกาสจัดฝึกอบรมเรื่องภาวะผู้นำให้กับบุคลากรระดับหัวหน้างานขององค์กรแห่งหนึ่ง จำนวนหลายรุ่น โดยเป็นหลักสูตร 3 วัน (3ครั้ง) หลังจากจัดไปครั้งแรกของทุกรุ่นแล้วห่างไปประมาณ 1 เดือน ได้พบกันอีกครั้ง เพื่อฝึกอบรมในครั้งที่ 2 ได้ยินเรื่องเล่าในสิ่งที่ผู้เข้ารับการอบรม |
|
นำไปใช้ปฏิบัติแล้วเกิดการเปลี่ยนแปลงกับตัวเองมากมายหลายๆกรณี (หลายๆคน) ทำให้บรรยากาศในการทำงานภายในองค์กรที่เคยไม่ค่อยสู้ดี กลับมาดีอีกครั้ง และผู้เข้าอบรมส่วนใหญ่ก็รู้สึกว่าตัวเองมีความสุขในการทำงานมากขึ้น เครียดและหงุดหงิดกับงานน้อยลง ทีมงานกล้าเข้ามาปรึกษามากขึ้น จนผู้จัดการโรงงานทักขึ้นมาว่า เกิดอะไรขึ้นกับหัวหน้างานของเขาหลังจากการฝึกอบรมกลับมา
|
ผมเกิดความภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก ทุกๆคนที่มาเล่าเรื่องการเปลี่ยนแปลงนั้น ได้ใช้เทคนิคที่เรียนรู้ไป แล้วนำไปแก้ไขหลุมพรางของตัวเองได้เป็นอย่างดี ขอยกตัวอย่างเพียงบางส่วน ดังนี้
ลูกน้องกล้าเข้ามาปรึกษามากขึ้น: กรณีนี้เกิดจากในอดีต หัวหน้างานท่านนี้จะเป็นคนดุมากลูกน้องทำผิดพลาด ก็จะใส่อารมณ์กับลูกน้อง โวยวายใช้วาจาไม่ค่อยสุภาพ ทำให้ลูกน้องไม่ค่อยอยากจะทำงานด้วย หลังจากฝึกอบรมไปครั้งที่ 1 ก็ชอบในสิ่งที่ผมพูดว่า ลูกน้องทำผิดแสดงว่าเรายังสอนเขาไม่ดีพอ เราควรสอนเขาเพิ่มขึ้น ก็เลยนำไปปฏิบัติกับน้องๆ โดยเรียกมาสอนแล้วทำให้ดู แล้วคอยสังเกตว่าน้องทำได้หรือยัง เมื่อทำได้แล้วก็ปล่อยให้น้องทำเอง จนน้องๆมีความสุขกับการทำงานมากขึ้น หัวหน้าก็มีความสุขขึ้น น้องๆ กล้าปรึกษางานอื่นๆ เพิ่มขึ้น
ประสานงานและช่วยเหลือแผนกอื่นมากขึ้น: กรณีนี้เดิมที่เดียวนั้น เมื่อเกิดปัญหางานล่าช้ามักโทษแผนกอื่นที่ทำให้ล่าช้า แต่ปัจจุบันนี้ หากเกิดความล่าช้าจากแผนกอื่นจะเข้าไปถามถึงสาเหตุ และให้ความช่วยเหลือเท่าที่ทำได้เพื่อให้งานเสร็จตามกำหนดและมาถึงแผนกตัวเองทันเวลา เพื่อให้แผนกของตัวเอวทำงานได้ตามเป้าหมายด้วย เท่ากับทุกๆแผนกทำงานได้ทัน KPI ของตัวเองจึงเกิดความร่วมมือร่วมใจกันระหว่างแผนกขึ้น ทุกคนก็มีความสุขมากขึ้น
ไม่โกรธหัวหน้า มองข้อดีของหัวหน้า : กรณีนี้เกิดจากการที่ทุกคนเมื่อได้รับมอบหมายงานมา ย่อมมีความเครียดเกิดขึ้น โดยเฉพาะช่วงที่งานเยอะๆ งานเร่ง จนตัวเองคิดว่าทำไม่ไหว จึงค่อนข้างจะอารมณ์เสียกับลูกน้อง แต่ลูกน้องคนนี้เมื่อก่อนโกรธที่หัวหน้ามาอารมณ์เสียใส่ และไม่พอใจในทริกของหัวหน้า หลังจากฝึกอบรมเสร็จ ได้บอกตัวเองว่า จะไม่โกรธหัวหน้าและมองข้อดีของหัวหน้าให้มากขึ้น ซึ่งก็ทำได้สำเร็จ โดยมองว่า หัวหน้าก็คงโดนกดดันมาเหมือนกัน เราพอช่วยอะไรได้ก็ควรทำเพราะหัวหน้าคงไม่ได้ตั้งใจจะดุด่าเราหรอก แล้วมองว่าหัวหน้าปกติก็เป็นคนที่คอยช่วยเหลือเรา เราไม่ควรโกรธหัวหน้า ปฏิบัติไปเรื่อยๆหัวหน้าก็ไม่ไส่อารมณ์กับลูกน้องคนนี้เลย
เหตุการณ์เหล่านี้คงเป็นตัวอย่างบางส่วนที่ผมนำมาแลกเปลี่ยน เพราะเกิดความภาคภูมิใจที่มีส่วนทำให้หลายๆคน ปฏิบัติงานได้ดีขึ้น มีความสุขกับการทำงานมากขึ้นและเกิดบรรยากาศการทำงานที่ดีขึ้นในองค์กร
สี่งที่ผมค้นพบคือ ผมไม่ได้เป็นผู้สร้าง ทัศนคติเชิงบวก ให้กับผู้เข้าอบรม ผมเพียงแต่ใช้กระบวนการโค้ชชิ่ง (Coaching) ดึงสิ่งที่มีอยู่ในตัวของทุกคนออกมาด้วยตัวเขาเอง เพราะในเวลาสั้นๆ ผมคงทำอะไรไม่ได้ แต่ที่ทุกคนเปลี่ยนแปลงแสดงว่า เขามีพื้นฐานทางความคิดเป็นคนทีทัศนคติเชิงบวกอยู่แล้ว แต่ติดหลุมพรางบางอย่าง เมื่อมีเทคนิคเอาชนะได้ ก็สามารถดึงทัศนคติเชิงบวกออกมาใช้ได้เลย นับว่าองค์กรนี้สร้างคนมาเป็นอย่างดีอยู่แล้วครับ
|
|
<<
เรื่องก่อนหน้า
|
เรื่องเล่าย้อนหลัง |
เรื่องต่อไป
>>
|
No feedback in this topic !!!
ส่งความคิดเห็น/มุมมองของท่าน |
|