Untitled Document
Massive Blue ~ CSS Vertical Menu
  หน้าแรกพื้นที่ทบทวน Leadership
แก่นสำคัญของหลักสูตร
(Course Frame Work)
ผู้นำพลังคิดบวก
Slide สำคัญพร้อมคำอธิบาย
สำรวจแนวความคิดเกี่ยวกับผู้นำ
ความเชื่อเกี่ยวกับผู้นำ
หลุมพรางทางความคิดที่สกัดกั้นการเป็นผู้นำ
คำถามสร้างพลังและแนวความคิด
ในฐานะผู้นำคุณคิดอย่างไรกับการสื่อสารที่ดี?
Workshop ต่างๆ
การทำให้ผู้อื่นเปลี่ยนแปลงตัวเอง
แบบทดสอบความรู้เกี่ยวกับภาวะผู้นำในตัวเอง
กรณีศึกษา
กรณีศึกษาหมวดหลุมพรางทางความคิด
กรณีศึกษาหมวดผู้นำการเปลี่ยนแปลง
คำสำคัญ
การ์ดให้แนวความคิด
การฝึกฝนเพิ่มเติม
สรุปภาวะผู้นำของตัวคุณเองด้านแนวความคิดของคุณ
แบบฝึก : การพัฒนาตัวเองและทีมงาน
การบ้าน : คัมภีร์บริหารการเปลี่ยนแปลงของตัวเอง
การบ้าน : หลักสูตรผู้นำพลังคิดบวก
อาจารย์ปกรณ์สรุปเนื้อหา
|
Slide สำคัญพร้อมคำอธิบาย
หน้าแรกพื้นที่ทบทวน Leadership >> Slide สำคัญพร้อมคำอธิบาย >> หลุมพรางทางความคิดที่สกัดกั้นการเป็นผู้นำ
หลุมพรางทางความคิดที่สกัดกั้นการเป็นผู้นำ
รู้สึกว่าต้องรองรับแรงกดดันรอบด้าน

ผู้นำระดับต้นและระดับกลางจะรู้สึกว่าถูกกดดันจากด้านบนและด้านล่าง เพราะคำสั่งของหัวหน้าที่ให้เราไปปฏิบัตินั้น ลูกน้องของเราส่วนใหญ่ก็ไม่ยอมทำตาม บางครั้งก็ถึงขนาดต่อต้านด้วย
การอยู่ในสภาวะแบบนี้ย่อมอึดอัดเป็นธรรมดา ถ้าจะให้เปรียบเป็นขนมก็อาจจะนึกถึงแซนด์วิชที่ถูกบีบทั้งข้างบนและข้างล่าง
การเป็นผู้นำแกนกลางจะเกิดแรงกดดัน เพราะต้องทำให้ลูกน้องยอมปฏิบัติตามด้วยความเต็มใจ และต้องแสดงให้หัวหน้าเห็นผลงานและยอมรับในตัวเราด้วย จึงเกิดความเครียดในหลายๆ กรณี

เทคนิคการเอาชนะหลุมพรางนี้
 
ปรับเปลี่ยนนิยามใหม่
 
โดยการมองว่าแซนด์วิชอร่อยที่ไส้ตรงกลาง ซึ่งก็หมายถึงเรานั่นเอง เราจะเป็น สิ่งที่มีคุณค่าและหัวหน้าก็ไว้วางใจ จึงมอบหมายงานได้และลูกน้องก็ให้การยอมรับว่าเราเป็นผู้นำเขาในการเป็นตัวแทนรับเรื่องจากหัวหน้ามาแทนเขา ไม่ต้องให้เขาต้องเผชิญหน้ากับหัวหน้าระดับสูงโดยตรง
แนวทางในการปฏิบัติตัวครั้งใหม่
 
เมื่อตกอยู่ในสภาวะนี้เมื่อไร ก็ได้เกิดความรู้สึกภาคภูมิใจที่เป็นบุคคลที่มีคุณค่า ถึงแม้ว่าจะรู้สึกอึดอัด แต่ถ้าเราสามารถประสานงานได้ ทุกฝ่ายยอมรับในงานดังกล่าวได้ ก็จะเกิดเป็นทีมเวิร์คและเราเป็นผู้สร้างขึ้นมานั่นเอง
เกิดอาการท้อถอยกับการทำงานบ่อย

ผู้นำจะเกิดอาการท้อถอย เมื่อเจอปัญหา / อุปสรรคต่างๆ มากๆ และไม่สามารถหาทางออกของปัญหาได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องงานหรือปัญหาเรื่องคน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาเรื่องคนเสียมากกว่า
คนส่วนใหญ่ เวลาเจอปัญหาจะเป็นกังวล และไม่ค่อยหาทางแก้เพราะมัวแต่ไปคิดว่าเป็นปัญหา ดังนั้น ปัญหาอาจไม่ยากที่จะแก้ไข เพียงแต่อารมณ์และความรู้สึกที่เรามีต่อปัญหามากกว่าที่เป็นปัญหา
คนรู้สึกท้อถอยเพราะมองไม่เห็นคุณค่าของงานที่เรากำลังทำอยู่ เวลามีปัญหาก็เลยท้อถอยทันที แต่ถ้าเราเห็นคุณค่าหรือประโยชน์ที่เราจะได้รับเมื่อเอาชนะปัญหาไปได้ ก็จะทำให้เราเรากระตือรือร้นที่จะแก้ไขปัญหามากขึ้น

เทคนิคการเอาชนะหลุมพรางนี้
 
การใช้คำถามสร้างพลัง
 
งานได้ประโยชน์อะไรกับเรา?
งานนี้มีคุณค่ากับเรามากแค่ไหน?
ถ้าเราแก้ไขไปได้แล้วจะเกิดผลดีอย่างไร?
  การตอบคำถามเหล่านี้จะทำให้เราเกิดพลังในการเอาชนะปัญหาได้ เพราะรู้สึกว่ามีประโยชน์มากกว่าที่จะเครียดและยอมแพ้กับปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ จึงทำให้เกิดความรู้สึกดีขึ้นกับตัวเองแล้วจะค้นหาวิธีการแก้ไขได้เองครับ
แนวทางในการปฏิบัติตัวครั้งใหม่
 
ถ้าเกิดปัญหาขึ้น เราควรสนใจที่ทางออกของปัญหามากกว่าตัวของปัญหาเอง เพราะรู้สึกเกี่ยวกับปัญหาย่อมไม่ดีแน่ แต่การคิดถึงวิธีเอาชนะปัญหาจะทำให้เรามีพลังเพิ่มขึ้นครับ